Responsive image Responsive image

ทำไมข้าวหอมมะลิ 105 ถึงน่าสนับสนุน

3 พฤษภาคม 2565



ทำไมข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ ถึงน่าอุดหนุน

 
เมล็ดยาวสวย รสนุ่มเนียน ออกหวานปลายลิ้น มีกลิ่นหอมฟุ้งคล้ายใบเตย คือเอกลักษณ์เฉพาะของข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุด ครองใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน

ไม่ใช่เพียงรสสัมผัสที่โดดเด่น คุณค่าของข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ ยังเกิดจากความเหมาะเจาะของผืนดินอีสาน และความเป็น ‘ข้าวไวแสง’ ที่จะออกดอกออกรวงเมื่อเวลากลางวันสั้นกว่ากลางคืนเท่านั้น นั่นแปลว่าสุดยอดข้าวพันธุ์นี้จะออกรวงให้เก็บเกี่ยวได้ปีละครั้งในช่วงฤดูหนาว รอคอยวันเวลาเพื่อบ่มเพาะความอร่อยจากดิน ฟ้า อากาศที่เหมาะสม แต่หากจะบอกว่าข้าวพันธุ์นี้คือของขวัญจากธรรมชาติ เราต้องไม่ลืมด้วยว่า ชาวนาผู้เข้าใจธรรมชาติและดูแลข้าวพันธุ์นี้ให้ออกรวงสวยงามในทุก ๆ ปี คือผู้มอบของขวัญแสนอร่อยนี้ให้กับเราด้วยเหมือนกัน


 
และผู้มอบของขวัญผ่านข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ ศาลานา คือเหล่าเกษตรกรอินทรีย์ยุคบุกเบิก ที่เริ่มต้นตั้งไข่พลิกนาแห้งแล้งแดนอีสาน ลาขาดสารเคมี และสร้างวัฒนธรรมอินทรีย์มาเกือบ 40 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปข้าวเกษตรอินทรีย์บ้านโนนยาง หมู่ 17 อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ที่ทำเกษตรกรรมยั่งยืนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 มีระบบการผลิต-การแปรรูป-การตลาดที่ก้าวหน้าและได้มาตรฐาน มีข้าวพื้นบ้านได้รับการฟื้นฟูและพัฒนามากกว่า 80 สายพันธุ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีอินทรีย์ที่สำคัญแห่งภาคอีสาน และ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปข้าวเกษตรอินทรีย์วิถีทมอ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ.2537 ก็มีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ในระดับสากล เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้าน มีผลผลิตอินทรีย์อย่างต่อเนื่องจนทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ ดูแลพื้นที่การผลิตเกือบ 2,000 ไร่ ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่ศาลานาผูกปิ่นโตอุดหนุนมาอย่างยาวนาน เพราะเชื่อมั่นในวิถีอินทรีย์ และอยากร่วมจับมือเป็นพันธมิตรเพื่อส่งต่อองค์ความรู้ของชาวนานักปราชญ์สู่ชาวนายุคใหม่ต่อไป


 
และนอกจากชาวนาอินทรีย์รุ่นใหญ่ ศาลานายังจับมือกับกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ที่กำลังตั้งไข่ในระยะเริ่มต้น เพราะเชื่อในศักยภาพของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านน้ำอ้อม อำเภอเกตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ที่ได้ชื่อว่าปลูกข้าวหอมมะลิได้ดีที่สุด ทั้งยังเป็นกลุ่มผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand และ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น แต่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ อยากผลักดันข้าวอินทรีย์ในท้องนาสู่ผู้บริโภคให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งนอกจากการรับซื้อข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ในราคาที่เป็นธรรม ยังเป็นการรับซื้อล่วงหน้า จ่ายเงินก้อนแรกให้กลุ่มได้นำไปจัดสรรการผลิตให้คล่องตัว และยังสนับสนุน ‘ทุน’ ให้กลุ่มมีความพร้อมในสร้างวิถีอินทรีย์ที่ยั่งยืนด้วยตัวเอง
 
ที่เล่ายาวมาทั้งหมดนี้ เพื่อจะตอบคำถามชัด ๆ ว่าทำไมข้าวหอมมะลิ 105 ถึงน่าสนับสนุน
 
นั่นเพราะนอกจากความอร่อยนุ่มลิ้น ผู้บริโภคอย่างเรายังได้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาวิถีอินทรีย์ ที่ดูแลข้าวพันธุ์พิเศษนี้อย่างเคารพธรรมชาติที่สุด
 
สนับสนุนข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ ศาลานา ได้ที่ www.salanashop.com



เรื่องที่น่าสนใจ

สงสัยไหมว่าทำไมข้าวที่เรากิน ถึง ‘นุ่ม’ ไม่เท่ากัน

ข้าวศาลานา มาจากนาที่ไหน?

ข้าวแข็งไม่ชอบ ข้าวไม่หอมขอบาย มีรสสัมผัสของข้าวที่ใช่เป็นธงในการให้คะแนน กว่าจะกินข้าวได้สักจาน

เข้าใจเรื่องข้าวแบบเน้น ๆ กับนักโภชนาการ แววตา เอกชาวนา