Responsive image Responsive image

Rice Remake

22 กุมภาพันธ์ 2566

Rice Remake
คด ‘ข้าวเหลือก้นหม้อ’
มาทำ Rice Cracker กรุบกรอบ
กินคู่ซัลซ่าทำเองสุดเฮลท์ตี้

 
มีข้าวเหลือก้นหม้อ เอาไปทำอะไรกินดี หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าข้าวเหลือก็เอาไปทำขนมทานเล่นได้เหมือนกัน

ศาลานาขอแนะนำเมนูแปลงโฉมข้าวเหลือที่ทำง่ายแสนง่ายอย่าง ‘Rice Cracker’ ของทานเล่นกรุบกรอบ เอาใจคนรักการกินขนม แต่ก็ยังคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ เพราะเมนูนี้เน้นรสธรรมชาติจากข้าวไร้สารเคมี ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่มให้วุ่นวาย แค่นวด ๆ คลึง ๆ ข้าวให้แบน รอจนข้าวแห้งแล้วนำไปทอดให้พองกรอบ

แค่นี้ก็ได้ขนมเคี้ยวเพลิน นำไปกินคู่กับซอสหรือเครื่องเคียงได้หลากหลาย แต่ถ้าอยากจะรักสุขภาพให้สุดก็ต้องกินคู่กับซัลซ่าแสนสดชื่น หากระดาษมาจดสูตร เตรียมทำตามได้เลย
 


กินข้าวไม่หมดไม่ใช่ปัญหา คดที่ติดก้นหม้อมาให้หมด
 
ข้าวเหลือที่นำมาใช้ทำแครกเกอร์จะเป็นข้าวสายพันธุ์อะไรก็ได้ แต่เราเลือกเป็นข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ ของศาลานา เพราะนอกจากจะให้สีสันที่สวยงาม ความกรุบกรอบของแครกเกอร์ยังทำให้คนลบภาพจำว่าข้าวสายพันธุ์สี ๆ กินยากไปจนหมด
 
ขั้นตอนแรกเริ่มจากการคดข้าวที่กินเหลือในหม้อออกมาพักไว้ในชามผสม จากนั้นเติมเกลือลงไปนิดหน่อยแล้วคลุกให้เข้ากันเพื่อให้ข้าวมีรสชาติ หากข้าวแข็งเกินไปอาจเติมน้ำลงไปเล็กน้อย จะทำให้ข้าวแผ่ตัวง่ายขึ้นในขั้นตอนถัดไป
 


นวด ๆ คลึง ๆ ทำข้าวให้แบน
 
เริ่มทำแผ่นแครกเกอร์ด้วยการปูแรปพลาสติกรองไว้ก่อน จากนั้นตักข้าวมาใส่ทีละนิด ปูแรปทับด้านบนอีกชั้น แล้วค่อย ๆ ใช้ไม้นวดแป้งคลึงให้ข้าวเป็นแผ่นเรียบบางเสมอกัน การลงน้ำหนักในขั้นตอนนี้อยู่ที่ความพึงพอใจว่าอยากได้แครกเกอร์เท็กซ์เจอร์รูปแบบไหน ยังเป็นเมล็ดข้าวอยู่หรือชอบแบบเรียบเนียน แต่แนะนำว่ายิ่งนวดคลึงให้บางจะยิ่งดี เพราะหากหนามากไป เวลาทอดจะแข็งและเคี้ยวลำบาก
 


ตัดเป็นแผ่นกลม แล้วตากทิ้งไว้ข้ามคืน
 
เมื่อได้แครกเกอร์ที่บางจนพอใจให้หาพิมพ์รูปทรงที่ต้องการ หรือปากแก้วมาตัดข้าวเป็นแผ่นกลม จากนั้นผึ่งทิ้งไว้ให้แห้ง ประมาณ 1-2 แดด หรือทิ้งไว้ข้ามคืนรอจนข้าวแห้งสนิท แต่หากไม่มีเวลาขนาดนั้น สามารถอบในเตาอบที่ความร้อน 150 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที และกลับข้างเรื่อย ๆ จนกว่าข้าวจะแห้ง
 


น้ำมันร้อนจัด ๆ จุ่มแครกเกอร์ลงไปทอดให้พอง
 
ได้แครกเกอร์ที่แห้งสนิทแล้วให้นำไปทอดในน้ำมันร้อนจัด ขั้นตอนนี้ต้องตั้งสมาธิให้มั่น เพราะแครกเกอร์พองสุกเร็วมาก ภายใน 30 วินาที ก็เปลี่ยนสีแล้ว ระวังไหม้!
 
แต่หากใครยังไม่อยากทอดเดี๋ยวนั้น หรือทำแล้วทอดกินไม่หมดในคราวเดียว ก็สามารถเก็บใส่กล่องสุญญากาศแช่ตู้เย็นไว้ก่อนได้เช่นกัน 
 


เพิ่มรสอร่อยตัดเลี่ยน ด้วยซัลซ่ามะเขือเทศดีต่อสุขภาพ
 
สุดท้าย เพื่อให้เมนูแครกเกอร์ข้าวมีรสมีชาติมากขึ้น สามารถทำซอสหรือเครื่องเคียงง่าย ๆ ได้หลากหลายสัญชาติ ทั้งกัวคาโมเล่แบบเม็กซิกันที่มีอะโวคาโดเป็นวัตถุดิบหลัก ซอสหน้าตั้งแบบไทยที่มีรสจากทั้งหมู กุ้ง และถั่วลิสง ไปจนถึงการเพิ่มรสหวานนัวด้วยเนยถั่วแบบฝรั่ง
 
แต่ถ้าอยากรักสุขภาพขึ้นอีกนิด ชวนมาจับคู่กินกับซัลซ่ามะเขือเทศ เพราะนอกจากจะให้รสสดชื่น ช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี ซัลซ่ายังเป็นเมนูที่ปรุงรสน้อย เน้นรสชาติและความสดใหม่จากวัตถุดิบ วิธีการทำซัลซ่าจึงง่ายชนิดที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ เพียงหั่นมะเขือเทศและหอมใหญ่เป็นชิ้นจิ๋ว จากนั้นบีบมะนาว เหยาะเกลือ และพริกไทยดำเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ

สั่งซื้อข้าวอินทรีย์ศาลานา ได้ที่
 
LINE: @Salana https://bit.ly/3cKp4Gj
Facebook: https://www.facebook.com/Salana.thailand
Website: www.salanashop.com
Shopee: https://shope.ee/403p63yFf6
Lazada: www.lazada.co.th/shop/salana-organic-village

 
 



เรื่องที่น่าสนใจ

เพราะชีวิตมีเรื่องยาก ๆ เยอะแล้ว มาทำเรื่องหุงข้าวให้เป็นเรื่องง่าย ๆ กันดีกว่า

“ทุ่งนาแดนนี้ ไม่มีความหมาย เหลือเพียงกลิ่นโคนสาบควาย เห็นซากคันไถแล้วเศร้า...”

ข้าวที่เรากินอยู่ทุกวันคือพืชที่มีชีวิต แม้แต่หลังเก็บเกี่ยวแล้ว เมล็ดข้าวก็ยังเปลี่ยนแปลงตามเวลา นั่นทำให้เส้นทางของข้าวตั้งแต่นาสู่จานมีจังหวะเวลาเฉพาะตัวที่สัมพันธ์กับฤดูกาล

มาตรฐาน Salana PGS ข้างถุงข้าว บอกอะไรเราบ้าง?

ผืนนาอีสานบ้านเฮา นอกจากจะกินพื้นที่กว้างขวางกว่าผืนนาภาคอื่น ๆ แล้ว ประสบการณ์ปลูกข้าวอินทรีย์ของชาวนาภูมิภาคนี้ก็ “เก๋า” ชนิดว่าไม่เป็นรองใครเลย!